ตอนที่168: ภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
ภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
1.ภาวะข้อต่อหัวไหล่เคลื่อน (Shoulder subluxation)
การบำบัดฟื้นฟูทางกายภาพบำบัด
หมายเหตุ แสดงภาพผู้ป่วยอ่อนแรงซีกขวา
1.1 การจัดท่าที่เหมาะสม
ท่านอนหงาย ควรน้าผืนเล็ก วางที่ใต้สะบักด้านที่อ่อนแรง เพื่อป้องกันสะบักจม
ท่านอนตะแคง ควรนำหมอนมารองใต้แขนและมือของผู้ป่วย ไม่ให้แขนตก
ในท่านั่ง ควรจัดให้แขนของผู้ป่วยวางอยู่บนหมอนหรือโต๊ะด้านหน้าผู้ป่วย
1.2 การจับและเคลื่อนไหวแขนอย่างถูกวิธี
ควรหลีกเลี่ยงในท่าดังต่อไปนี้
- การยกแขนผู้ป่วยโดยการจับเฉพาะที่มือผู้ป่วยและสะบักยังไม่เคลื่อนมาข้างหน้าอีกทั้งกระดูกต้นแขนยังไม่อยู่ในลักษณะหมุนออกอย่างเพียงพอ
- การยกไหล่ผู้ป่วยในขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เช่น จากเตียงไปยังเก้าอี้หรือรถเข็นนั่ง
- การให้ผู้ป่วยดึงรอกเหนือศีรษะโดยใช้มือข้างปกติช่วย
1.3 การออกกำลังกาย
คงไว้ซึ่งพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ได้แก่ ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ โดยใช้แขนข้างปกติช่วยพยุงแขนข้างอัมพาตโดยทำสม่ำเสมอในแต่ละวัน
ฝึกนั่งโดยลงน้ำหนักแขนด้านอัมพาต
หลีกเลี่ยงวิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ การยกหรือดึงแขนผู้ป่วย การเคลื่อนไหวข้อไหล่ให้แก่ผู้ป่วยโดยขาดความระมัดระวังเป็นต้น
1.4 ควรใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น hot pack,cold pack, ultrasound ในกรณีที่ปวดไหล่
1.5 เทคนิคการนวดเพื่อลดปวด
โดยใช้ฝ่ามือคลึงเป็นวงกลมเบาๆ บริเวณหัวไหล่
1.6 ควรให้มีการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อข้อไหล่
โดยการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน หรือน้ำหนัก เช่น ยก dumbbell เริ่มจาก น้ำหนักน้อยๆก่อน
1.7 การกระตุ้นกล้ามเนื้อรอบข้อไหล่ด้วยกระแสไฟฟ้า (electrical stimulation)ซึ่งนิยมทำในระยะแรกที่มีอาการอ่อนแรง
1.8 ใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงข้อไหล่ (shoulder sling) ในขณะที่ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่ต้านแรง ดึงดูดของโลก ได้แก่ ท่านั่ง ยืน และเดิน
- 2. ภาวะอาการแสบร้อนร้าวแขนมาที่มือ Reflex sympathetic dystrophy
2.1 การจับและเคลื่อนไหวแขนอย่างถูกวิธี
– ไม่ควรให้ข้อมืออยู่ในลักษณะกระดกลง แต่ควรอยู่ในลักษณะกระดกข้อมือเล็กน้อย โดยอาจใช้อุปกรณ์ดามมือ (splint) ร่วมด้วย
– เคลื่อนไหวมือและข้อมือของผู้ป่วยอย่างนุ่มนวล
– ให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวแขนและมือด้วยตนเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้กล้ามเนื้อได้มีการหดตัว
2.2 การออกกำลังกายเพื่อคงไว้ซึ่งพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อต่อ
โดยใช้มือข้างปกติยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ
งอ-เหยียดศอก
กระดกข้อมือขึ้น-ลง
2.3 การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน
โดยการให้น้ำหนักเช่น ยก dumbbell เริ่มจากน้ำหนักน้อยๆ ก่อน เป็นต้น
2.4 ควรใช้เทคนิคการนวดเพื่อลดปวด
โดยใช้ฝ่ามือคลึงเป็นวงกลมเบาๆ บริเวณหัวไหล่แขน และมือ
2.5 ควรใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น hot pack,cold pack, ultrasound ในกรณีที่ปวด
- Deconditioning (decrease cardiovascular fitness)
3.1 ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทานของระบบหัวใจและหลอดเลือด
การปั่นจักรยาน ,การใช้เครื่องฝึกเดิน หรือ การยกน้ำหนักด้วย dumbbell หรือ ถุงทราย
- ภาวะแทรกซ้อนทางระบบหายใจ
4.1 โปรแกรมกายภาพบำบัดทางระบบหายใจ
การฝึกการหายใจอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ
4.1.1.การหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมหน้าท้อง
เริ่มจากเอามือประสานกันไว้ที่หน้าท้องใต้ลิ้นปี่ หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ ให้ท้องป่อง
จากนั้นหายใจออกทางปากช้าๆ ยาวๆ ให้ท้องยุบ
4.1.2.การหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อซี่โครงส่วนบน
วางมือทั้ง 2 ข้างบริเวณใต้กระดูกไหปลาร้า หายใจเข้าทางจมูกช้าๆจนสุด ให้ทรวงอกขยับขึ้น จากนั้นหายใจออกทางปากช้าๆ ยาวๆ ให้ทรวงอกขยับกลับมาที่เดิม
4.1.3.การฝึกหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อซี่โครงส่วนล่าง
วางมือทั้ง 2 ข้างบริเวณชายโครง หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ ลึกๆ ให้รู้สึกว่า ชายโครงขยายออกด้านข้าง จากนั้นหายใจออกทางปากยาวๆ ให้ชายโครงยุบกลับสู่ที่เดิม
4.1.4 การหายใจร่วมกับการเคลื่อนไหวของทรวงอกและลำตัว
เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อรอบทรวงอก หัวไหล่และลำตัว ซึ่งจะมีผลให้หายใจได้สะดวกขึ้น โดยทำพร้อมกับการหายใจ โดยแบ่งเป็น 2 แบบ
แบบที่ 1 นั่งตัวตรง ยกแขนทั้ง2ข้างขึ้น พร้อมหายใจเข้าเต็มที่ จากนั้น หายใจออกทางปากช้าๆ พร้อมกับค่อยๆลดแขนลง
5.แผลกดทับ (pressure sore)
กรณีผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนย้ายบนเตียงได้ด้วยตนเอง เนื่องจากมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและการสูญเสียการรับความรู้สึกบนผิวหนัง
5.1 ควรจัดท่านอนอย่างเหมาะสม
การจัดท่านอน
- ควรเปลี่ยนท่านอนอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ส่วนใดส่วนหนึ่งไม่รับแรงกดนานเกินไป ถ้าเปลี่ยนท่านอนแล้วรอยแดงบริเวณผิวหนังไม่หายภายใน 30 นาทีอาจจะพิจารณาให้เปลี่ยนท่านอนได้บ่อยขึ้น โดยมีการหมุนเวียนเปลี่ยนท่านอน เช่น นอนหงาย นอนตะแคงซ้าย นอนตะแคงขวา สลับกันไป
- การนอนตะแคง ควรจัดให้นอนตะแคง กึ่งหงาย ใช้หมอนยาวรับตลอดแนวลำตัว รวมทั้งบริเวณข้อเข่า ข้อเท้า ควรทำให้สะโพก ทำมุม 30 องศา และใช้หมอนรองตามปุ่มกระดูก และใบหู
- การนอนหงาย ควรมีหมอนสอดคั่นระหว่างหัวเข่า ตาตุ่มทั้ง 2 ข้าง ขา 2 ข้าง และรองใต้น่องและขาเพื่อให้เท้าลอยพ้นพื้นไม่กดที่นอน
- การจัดท่านอนศีรษะสูงไม่เกิน 30 องศา แต่ถ้าจำเป็นศีรษะสูงเพื่อให้อาหาร หลังจากให้อาหาร 30 นาที – 1 ชั่วโมง ควรลดระดับลงเหลือ 30 องศา
- กรณีที่นั่งรถเข็น ควรให้มีเบาะรองก้น และกระตุ้นให้เปลี่ยนถ่ายน้ำหนักตัว หรือยกก้นลอยพ้นพื้นที่นั่งทุก 30 นาที
การใช้อุปกรณ์ลดแรงกด
- อุปกรณ์ลดแรงกดอยู่กับที่ เช่น ที่นอนที่ทำจาก เจลโฟม ลม น้ำ หมอน เป็นต้น
- อุปกรณ์ลดแรงกดสลับไปมา เช่น ที่นอนลม ไฟฟ้า
6.ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน (Deep vein thrombosis)
เมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน 6.1 ควรงดการให้โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อการรักษา (แต่เริ่มการออกกำลังกายได้เมื่อควบคุมโรคได้) 6.2 ควรนอนพักและจัดให้ร่างกายส่วนที่บวมอยู่สูงกว่าระดับหัวใจในท่านอนหงาย 6.3 ใช้ผ้าพัน พันบริเวณเท้าไล่ขึ้นมาบนขา เพื่อการ compression ลดการบวม 6.4 ออกกำลังกายโดยการกระดกข้อเท้าขึ้น-ลงบ่อยครั้ง |
>>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.firstphysioclinics.com
>>> เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด (FIRSTPHYSIO)
>> > LINE ID: 0852644994
>>> TEL. 085-264-4994