Blog Section

ตอนที่720 โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

ตอนที่720 โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นโรคร้ายที่ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ แต่มีข้อบ่งชี้แสดงอาการป่วยในหลาย ๆ อวัยวะร่วมกันโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันหรือต่างช่วงเวลาก็ได้ มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ของแต่ละอาการเป็นระยะ และอาการรุนแรงของโรคที่แตกต่างกัน อาจมีข้อบ่งชี้โรคแพ้ภูมิตัวเอง SLE ได้

รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง

โรคแพ้ภูมิตัวเองหรือSLE(Systemic Lupus Erythematosus)คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันโดยภูมิคุ้มกันของคน ๆ นั้นทำลายเนื้อเยื่อภายในร่างกายของตัวเองจนเกิดการอักเสบและสามารถทำให้เกิดความผิดปกติกับอวัยวะได้ทั่วร่างกาย พบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในช่วงวัยเจริญพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยร่วมอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคได้ เช่น กรรมพันธุ์(อาจจะมีสารพันธุกรรมบางชนิดที่สัมพันธ์กับการเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง)ส่วนปัจจัยที่กระตุ้นให้โรคกำเริบมากขึ้น ได้แก่ การติดเชื้อภายในร่างกาย แสงแดด เป็นต้น หากป่วยเป็นโรคนี้ร่างกายจะมีการสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งขึ้นมาชื่อว่าAntinuclear Antibodyทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ชัดเจน

อาการบอกโรค

อาการของโรคนี้จะแสดงความผิดปกติในร่างกายในหนึ่งอวัยวะหรือหลายอวัยวะที่พบได้บ่อยคือ

  • ปวดข้อ
  • เป็นไข้ตั้งแต่ไข้ต่ำ ๆ จนถึงไข้สูง
  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • เกิดผื่นผิวหนังตามใบหน้า แขน ขา ที่อยู่บริเวณนอกเสื้อผ้า
  • ผมร่วง

มีสภาวะเลือดจางเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ ถ้าโรครุนแรงอาจมีเม็ดเลือดแดงแตก ปอดอักเสบ ไตอักเสบ 

รักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง

โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพราะการรักษาที่สม่ำเสมอช่วยทำให้โรคสงบได้ โดยแพทย์จะเริ่มทำการรักษาจากการประเมินความรุนแรงของอาการที่ผู้ป่วยเป็นว่ามากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละคนอาการจะมีความรุนแรงของโรคไม่เท่ากัน หลังจากนั้นจึงวางแผนการรักษาและการให้ยา ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก เกิดการอักเสบของร่างกายในหลายระบบ แพทย์อาจพิจารณาการใช้ยาสเตียรอยด์หรือยากดภูมิเพื่อคุมโรค ดังนั้นผู้ป่วยแต่ละคนจึงได้ยาแตกต่างกันตามความรุนแรงของโรค

Facebook Comments