All posts in การดูแลตนเอง หลังผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกเทียม

ตอนที่ 644 ไม้ค้ำยันมีกี่แบบ???

ตอนที่ 644  ไม้ค้ำยันมีกี่แบบ???

ตอนที่ 644  ไม้ค้ำยันมีกี่แบบ???

1.Forearm crutches
✅ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยทรงตัวได้ดีพอสมควร
✅ช่วยรับน้ำหนักได้เพียงร้อยละ 40-50 ของน้ำหนักตัว •

???????? ข้อดี คือ มีรูปร่างและขนาดเล็กกว่าไม้ค้ำยันรักแร้ มีแถบรัดที่บริเวณปลาย แขนช่วยให้ผู้ป่วยสามารถ ปล่อยมือจากไม้เพื่อหยิบจับสิ่งของได้โดยที่ ไม้ค้ำเย็นบ้งกล้องติดกับแขน
????????ข้อเสีย คือ ราคาแพงและหาซื้อได้ยาก

2.Plateform crutches

Plateform crutches

✅ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถกำหรือลงน้ำหนักที่มือหรือข้อมือได้
✅ออกแบบมาเพื่อให้ลงน้ำหนักที่ปลายแขนเมื่องอข้อศอก 90 องศา

????ตัวอย่างผู้ป่วย เช่น กระดูกปลายแขนหัก, ข้ออักเสบรูมาตอบบริเวณข้อมือ ข้อนิ้ว, ข้อศอกยึดติด กล้ามเนื้อกำมืออ่อนแรง



3.Canadian Crutches
✅ลักษณะคล้าย Forearm Crutches แต่มีส่วนต่อขึ้นมารองรับ บริเวณต้นแขนทําให้ข้อศอกเหยียดตลอดเวลา
✅ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะกล้ามเนื้อ Triceps อ่อนแรงที่ ไม่สามารถ เหยียดข้อศอกได้

4.Axillary crutches
Axillary crutchesทำจากไม้หรือโลหะกลวง2อัน เชื่อมต่อกันด้วยท่องวางที่ใช้สำหรับ ยันกับสีข้างล่าตัว เรียกว่า Axillary piece และท่อสำหรือใช้มือจับ เรียกว่า Hand piece ไม้ค้ำรักแร้ วยรับน้ำหนัก ตัวผู้ใช้ได้ถึงร้อยละ80ของน้ำหนักตัวและช่วยทรงตัวได้ดี

More

ตอนที่ 636 ข้อเคล็ด

ตอนที่ 636 ข้อเคล็ด

ตอนที่ 636 ข้อเคล็ด

ข้อเคล็ดเกิดจากอะไร?

เกิดจากการบาดเจ็บของกล้าม เนื้อ(muscle)หรือ เอ็นยึดกระดูก (tendon) ที่เกิดจากการถูกเหยียดของ กล้ามเนื้อ หรือเอ็นยึดกระดูกสาเหตุส่วน ใหญ่จากการเล่นกีฬา มักพบในตำแหน่ง หลังขาโดย เฉพาะ hamstring และ เท้า อาการ ปวด(Pain)เกร็งกล้ามเนื้อ (spasm) มีการอ่อนแรง(weak) บวม (swelling) และมีการอักเสบ (Inflammation)


วิธีการรักษา

•พักการใช้งาน
ประคบเย็นเพื่อลดอาการปวด ลดการ อักเสบ
•ใช้ผ้ายืดพันบริเวณที่บาดเจ็บ
•วางบริเวณที่บาดเจ็บให้สูง เพื่อ ลดอาการบวม

*หลังพ้นระยะ 24-48 ชั่วโมง แล้ว ให้เริ่มลดปวด และคงไว้ซึ่งการเคลื่อนไหว ของข้อที่บาดเจ็บเนื่องจากการจำกัด การเคลื่อนไหวนานๆอาจเกิด พังผืดบริเวณที่บาดเจ็บ

 

More

ตอนที่9:ข้อสะโพกเสื่อม

ตอนที่9:ข้อสะโพกเสื่อม

 ข้อสะโพกเสื่อม

64

  เรื่องของอายุและความเสื่อมของสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งที่หลายๆคนนึกกลัวและกังวลไม่น้อย  โรคข้อสะโพกเสื่อม เป็นโรคที่พบไม่ค่อยบ่อยในผู้สูงอายุ เริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 45 ปี แต่มักพบบ่อยเมื่ออายุมากกว่า 60 ปี เมื่ออายุน้อยผิวข้อที่มีผิวเรียบ มัน วาว แต่เมื่ออายุมากขึ้นผิวข้อจะมีการเสื่อมสภาพ ซึ่งรวมถึงเยื่อหุ้มข้อ เส้นเอ็นรอบข้อ และกระดูกที่ประกอบเป็นข้อ เมื่อผู้ป่วยอายุมากขึ้นมักมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้นด้วย และเริ่มมีโครงสร้างภายในข้อไม่เป็นปกติ จึงเกิดความเปลี่ยนแปลงความผิดปกติภายในข้อ อันประกอบด้วย ผิวของข้อสะโพก ซึ่งเป็นกระดูกอ่อน เริ่มสึกหรอ ทำให้ผิวข้อไม่เรียบ การเคลื่อนไหวข้อ มีอาการติดขัด ฝืด หรือเสียงดังคล้ายกระดาษทรายถูกัน  การกระจายการรับน้ำหนักของกระดูกผิวข้อ เริ่มผิดปกติ บางบริเวณมากขึ้น บางบริเวณน้อยลง ทำให้การรับน้ำหนักผิดปกติ มีอาการปวดเสียว  เยื่อหุ้มข้อ ถูกระคายเคือง เกิดการอักเสบ และสร้างน้ำในข้อมากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวด บวม  กล้ามเนื้อรอบข้อสะโพก มีความแข็งแรงน้อยลง แรงกระแทกจึงเกิดกับผิวข้อมากขึ้น เอ็นยึดข้อ บางส่วนหย่อนยานขึ้น ทำให้ข้อแกว่ง หรือหลวมมากขึ้น  เพิ่มการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติมากขึ้น  กระดูกรอบข้อเกิดการปรับตัว โดยสร้างกระดูกงอกขึ้นภายในข้อ ทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้น้อยลง กระดูกบริเวณข้อสะโพก และรอบ ๆ ข้อ บางลง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มเดินน้อยลง

61

  ปัจจัยเสี่ยง

  1. อายุ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสเกิดกระดูกสะโพกหักมากขึ้น จากทั้งการเกิดภาวะกระ ดูกพรุน และปัญหาในการทรงตัวที่ทำให้เกิดการล้มได้ง่าย
  2. เพศ พบกระดูกสะโพกหักในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนสูงกว่าในผู้ชาย
  3. มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน เพราะส่งผลให้เกิดกระดูกพรุนได้ง่าย
  4. ภาวะทุโภชนา กินอาหารไม่มีประโยชน์ หรือขาดอาหาร กระดูกจึงอ่อนแอ หักได้ง่าย
  5. ไม่ได้ออกกำลังกาย จึงเกิดกระดูกพรุนได้ง่าย
  6. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่ใช้ต่อเนื่อง ที่ทำให้เกิดกระดูกพรุน เช่น ยาสเตียรอยด์
  7. สูบบุหรี่ และ/หรือดื่มสุรา เพราะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้สูง

 

62

โรคข้อสะโพกเสื่อม เป็นสิ่งที่หลายๆคนนึกกลัว แม้เราไม่สามารถเอาชนะกฎของธรรมชาติได้ แต่เราก็สามารถที่จะยืดเวลาในการใช้งานอวัยวะได้ด้วยเทคโนยีในด้านการแพทย์สมัยใหม่โดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมมากขึ้นในด้านการแพทย์ และวิถีชีวิติความเป็นอยู่  ในสมัยที่เทคโนยีด้านการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้นทำให้วิธีการรักษาเป็นไปได้มากขึ้นจนเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาของความเจ็บป่วย การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะต่างๆถือเป็นเรื่องปกติ  โดยเฉพาะการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมแต่ก็ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังกลัวและกังวลเกี่ยวกับการดูแลตนเองหลังทำการรักษา โดยเฉพาะหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม   แต่ท่านผู้อ่านสามารถสบายใจได้เกี่ยวกับการผ่าตัดทั้งข้อสะโพกและข้อเข่าเนื่องจากมีการศึกษาว่า ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดข้อสะโพกเทียมหากได้รับความรู้ ความเข้าใจในการผ่าตัดและการฟื้นฟุสรรมภาพตั้งแต่ระยะก่อนการผ่าตัด โดยมีการสอนการใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน การเคลื่อนย้ายตัวเองบนเตียง การขึ้น-ลงบันได การป้องกันข้อสะโพกหลุด

 

 

 

69

 

วีธีการดูแลตนเองหลังการผ่าตัดข้อสะโพกทียม

ปญหาของการใชงานขอเทียมหล ังงการผาตัดเปลี่ยนขอเทียม คือกลามเนื้อรอบๆ ขอนั้นออนแรงและลีบ ซึ่งสวนใหญเกิดขึ้นกอนการผาตัด การเคลื่อนไหวขอถูกจํากัด เนื่องจากความกลัวเจ็บปวด ทําใหขอติดแข็งและจํากัดการเคล ื่อนไหวมากขึ้นและเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อตองมีการเคลื่อนไหว   หลังการฟนฟูสภาพผูปวยหลังงการผาตัดเปลี่ยนขอสะโพกเทียม มีวัตถุประสงคเพื่อใหผ ูปวยสามารถใชขอเทียมในการดำเนินชีวิตได้อยางใกลเคียงปกติที่สุด     ในระยะแรกของการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม เริ่มตั้งแต่การเคลื่อนย้ายผู้ที่ได้รับการผ่าตัดจากเตียงผ่าตัดจะใช้หมอนสามเหลี่ยมวางระหว่างขาให้สะโพกกางไว้ 15 องศาและสามารถนอนตะแคงได้   กล้ามเนื้อรอบสะโพกหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมสามารถฟื้นความแข็งแรงได้ 50เปอร์เซนต์ ในเดือนที่ 3และ80เปอร์เซนต์ เดือนที่6

 

 

65

ขอควรปฏิบัติสําหรับผูปวยหลังผาตัดเปลี่ยนขอสะโพก

  • กิจกรรมที่ผู้ทีผ่าตัดข้อสะโพกเทียมต้องระวัง
  • การนั่งเก้าอ้เตี้ยเพราะหัวกระดูกสะโพกจะหลุด ถ้าได้รับการผ่าตัดทางด้านหลังผู้ผ่าตัดไม่ควรงอสะโพกเมากกว่า 90 องศาการหลุดในทิศทางไหนก็แล้วแต่นั้นขึ้นอยู่กับรอยแผลที่ได้รับการผ่าตัด
  • ตำแหน่งและทิศทางของการหลุด
  • ถ้าเป็นการหลุดทางด้านหลัง  งอสะโพก กางสะโพก และกาหมุนหัวสะโพกเข้าด้านใน
  • ถ้าเป็นการหลุดทางด้านหน้า การเหยียดสะโพก การหุบสะโพก และการ หมุนหัวสะโพกออกด้านนอก

66

 

กายภาพบําบัดและฝึกการออกกำลังหลังการผ่าตัด

ระยะหลังผาตัดวันที่ 1-2

  • ฝกหายใจลึกๆ
  • กระดกขอเทาขึ้นลง
  • ออกกําลังเกร็งกลามเนื้อ (Isometric exercise) ของกลามเนื้องอสะโพก เหยียดสะโพก และกางสะโพกในทานอน โดยมีหมอนหรืออุปกรณกางขา (Abductor brace) กั้นไว้ระหวางขาสองขาง

 

ระยะหลังผาตัดวันที่ 2-3

  • การออกกําลังกายโดยใชเครื่องช่วยเช่นใชสายคลองการยืดกลามเนื้องอขอสะโพกเพื่อปองกันการหดยึดหดสั้นของกล้ามเนื้อในทางอสะโพกดวยวิธี modified Thomas stretch โดยงอเขาขางที่ไมผาตัดกอดเขาชิดอกและเกร็งกล้ามเนื้อเหยียด ขอสะโพกขางที่ผาตัดอยู่กับที่เรียกการออกกำลังกายชนิดนี้ว่า (Isometric exercise)
  • ฝกยืนและเดนโดยใช้ เครื่องช่วยเดิน เช่ เครื่องชวยเดินไม้เท้า  4 ขา หรือไมค้ำยัน
  • นั่งเกาอี้นานอยางนอย 30 นาทีวันละ 3 ครั้งโดยใหขอสะโพกอยในระดัสูงกวาข้อเข่า

ระยะหลังผาตัดวันที่ 4-7

  • ฝกเดินเขาหองน้ําและขึ้นลงบันไดโดยใชเครื่องชวยเดิน
  • เริ่ม ออกกำลังกายแบบ active ROM exercise ในทายืน เนนท่ากางขอสะโพก
  • สอนการบริหารเพื่อเพิ่มกําลังกลามเนื้อรอบขอสะโพก สวนใหญผูปวยสามารถกลับบานไดหลังผาตัดประมาณ 5-7 วัน หลังจากนี้ควรออกกําลังเพื่อเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหวขอและเพิ่มกําลังกลามเนื้อรอบขอสะโพกและขอเข่าใหแข็งแรงขึ้น อาจจะใชการปนจักรยานอยูกับที่หรือออกกําลังกายในสระน้ำ โดยอาศัยแรงลอยตัวของน้ํา ชวยพยุงตัว ระยะหลังจะอาศัยแรงลอยตัวของน้ำเปนแรงตาน เพื่อออกกําลังกลามเนื้อใหแข็งแรงขึ้น

 

67

คลินิกกายภาพบำบัดเฟิร์ส ฟิสิโอ

ใกล้กับสหกรณ์โคนมหนองโพ จ.ราชบุรี

โทร 085-2644994

 

 

More