All posts in ALL Physical Therapy Equipment

ตอนที่ 696 การป้องกันและการรับมือกับโรคภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน

ตอนที่ 696 การป้องกันและการรับมือกับโรคภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน

การป้องกันและการรับมือกับโรคภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน:

1. รู้จักอาหารหรือสิ่งที่เป็นสาเหตุของภูมิแพ้: ทราบและระวังสิ่งที่เป็นสาเหตุของภูมิแพ้ เช่น อาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ วัสดุที่ทำให้เกิดการติดแพ้อย่างรุนแรง เพื่อป้องกันการสัมผัสและบริโภคมัน

2. เรียนรู้สารเคมีที่อาจเป็นสาเหตุของภูมิแพ้: รู้จักสารเคมีที่อาจเป็นสาเหตุของภูมิแพ้ เช่น สารเคมีในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารกันเสีย หรือสารเคมีในเครื่องสำอาง เพื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับคุณ

3. ทดสอบภูมิต้านทาน: ถ้าคุณสงสัยว่ามีภูมิแพ้ต่ออาหารหรือสารเคมีบางอย่าง คุณสามารถร้องขอทดสอบภูมิต้านทานจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อทราบว่าคุณมีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งเหล่านั้นหรือไม่

4. อ่านป้ายกำกับผลิตภัณฑ์: อ่านป้ายกำกับผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบ ซึ่งรวมถึงรายการส่วนผสม เพื่อตรวจสอบว่ามีสารที่คุณแพ้อยู่ในผลิตภัณฑ์หรือไม่

5. ระวังการใช้สารหอกเอน: หากคุณแพ้สัตว์เลี้ยงหรือสัตว์เลี้ยงเสมือน ระวังการใช้สารหอกเอนในผลิตภัณฑ์หรืออาหาร เนื่องจากสารหอกเอนอาจทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง

6. สวมหน้ากากเอียงและใช้เครื่องป้องกัน: เมื่ออยู่ในสถานที่ที่คุณรู้ว่ามีสิ่งที่คุณแพ้ เช่น ฝุ่น สารเคมี หรือเศษของสัตว์เลี้ยง คุณควรสวมหน้ากากเอียงและใช้เครื่องป้องกันตามความเหมาะสม

7. รักษาความสะอาด: รักษาความสะอาดของสภาพแวดล้อมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประจำ เช่น ล้างมืออย่างถี่ถ้วน ทำความสะอาดบ้าน และรักษาความสะอาดของที่นอนและผ้าปูที่ใช้กับผู้ป่วย

8. รักษาสุขอนามัยอย่างเหมาะสม: การดูแลสุขอนามัยอย่างดี รวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่เหมาะสมและสมดุล และการพักผ่อนที่เพียงพอ เป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับภูมิแพ้

9. รับคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีอาการภูมิแพ้ที่รุนแรงหรือมีปัญหาในการจัดการภูมิแพ้ ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสม

10. สนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนฝูง: ความสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับโรคภูมิแพ้ คุณสามารถแชร์ประสบการณ์และคำแนะนำกับครอบครัวและเพื่อนฝูง เพื่อให้พวกเขาเข้าใจและสนับสนุนในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและการจัดการภูมิแพ้

11. สำรวจและเคารพสิ่งแวดล้อม: ระวังสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นละออง สารเคมีในที่ทำงาน หรือสิ่งที่อาจเกิดการตอบสนองแพ้ เพื่อป้องกันการสัมผัสหรือรับประทาน

12. รักษาสุขอนามัยทางจิต: การรักษาสุขอนามัยทางจิตเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับภูมิแพ้ คุณสามารถใช้เทคนิคการควบคุมความเครียด เช่น การทำโยคะ การหายใจลึก หรือการฝึกสติ เพื่อลดอาการแสวงหา

13. รักษาความสะอาดส่วนตัว: การรักษาความสะอาดส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการสัมผัสสารที่อาจเป็นสาเหตุของภูมิแพ้ คุณควรรักษาความสะอาดของผิวหนังและเสื้อผ้า รวมถึงการล้างมืออย่างถี่ถ้วน

14. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพ: หากคุณมีภูมิแพ้รุนแรงหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการจัดการภูมิแพ้ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพ เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

15. รักษาอาหารและสารเคมีที่เกี่ยวข้อง: ระมัดระวังการรับประทานอาหารหรือสารเคมีที่เป็นสาเหตุของภูมิแพ้ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำเช่น ออกหากจานอาหารที่อาจมีส่วนผสมที่คุณแพ้อยู่ หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับคุณ

More

ตอนที่ 694 10 สัญญาณและอาการของโรคโควิด-19 ที่ควรรู้

ตอนที่ 694 10 สัญญาณและอาการของโรคโควิด-19 ที่ควรรู้

1. ไข้: เป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส.

2. ไอและจาม: อาจมีไอแห้งหรือไอมีเสมหะ และจามอาจเกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้ง.

3. หายใจลำบาก: ผู้ป่วยโควิด-19 อาจมีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย หรือหายใจเหนื่อย.

4. เจ็บคอ: การเจ็บคอและคันคอเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ติดเชื้อโควิด-19.

5. อ่อนเพลียและอ่อนล้า: ผู้ป่วยโควิด-19 อาจมีอาการอ่อนเพลียหรืออ่อนล้าที่ไม่ธรรมดา.

6. ปวดกล้ามเนื้อ: อาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อ หรืออาการเจ็บปวดทั่วไปในร่างกาย.

7. ปวดหัว: ผู้ป่วยโควิด-19 อาจมีอาการปวดหัวเรื้อรังหรือปวดหัวที่เป็นความผิดปกติ.

8. ขากรรไกรและเจ็บคอ: บางครั้งผู้ป่วยโควิด-19 อาจมีอาการขากรรไกรหรือเจ็บคอ.

9. ปริมาณการสูญเสียกลิ่นและรส: ผู้ป่วยโควิด-19 อาจสูญเสียการรับรู้กลิ่นและรสของอาหาร.

10. ผื่นผิวหนัง: บางรายอาจมีอาการผื่นผิวหนังหรือคันผื่น.

ควรจำไว้ว่าอาการข้างต้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และมีอาการเพิ่มเติมที่ไม่ได้กล่าวถึงในรายการด้านบน เมื่อมีอาการเช่นนี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพื่อการประเมินและการรักษาที่เหมาะสม.

More

ตอนที่ 639 Ultrasound combined therapy

ตอนที่ 639 Ultrasound combined therapy

ตอนที่ 639 Ultrasound combined therapy

             เป็นการใช้เครื่องมือรักษาทางกายภาพบำบัด 2 เครื่องมือร่วมกันระหว่างเครื่องUltrasound กับ เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (ES,TENS,IFC) เพื่อให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อ และจะได้ ประสิทธิภาพในการรักษาาที่ดีขึ้น ซึ่งในขณะทำการรักษาผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดเล็กน้อย การรักษาขึ้นอยู่กับขนาดของพยาธิสภาพ

ประโยชน์

• ลดอาการปวด
•ลดอักเสบของเนื้อเยื่อ
•เพิ่มความนืดหยุ่นของข้อต่อ
•ลดอาการบวม
•ช่วยเร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
•คลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ

วิธีการใช้งาน

1.ติดแผ่นกระตุ้นคร่อมจุดที่ ต้องการจะรักษา
2.ตั้งค่าเครื่องให้ได้ตามที่ต้องการ จะใช้รักษา ทาเจล
3.เริ่มทําการรักษา

*เวลาในการรักษา 10-15 นาที

More

ตอนที่ 636 ข้อเคล็ด

ตอนที่ 636 ข้อเคล็ด

ตอนที่ 636 ข้อเคล็ด

ข้อเคล็ดเกิดจากอะไร?

เกิดจากการบาดเจ็บของกล้าม เนื้อ(muscle)หรือ เอ็นยึดกระดูก (tendon) ที่เกิดจากการถูกเหยียดของ กล้ามเนื้อ หรือเอ็นยึดกระดูกสาเหตุส่วน ใหญ่จากการเล่นกีฬา มักพบในตำแหน่ง หลังขาโดย เฉพาะ hamstring และ เท้า อาการ ปวด(Pain)เกร็งกล้ามเนื้อ (spasm) มีการอ่อนแรง(weak) บวม (swelling) และมีการอักเสบ (Inflammation)


วิธีการรักษา

•พักการใช้งาน
ประคบเย็นเพื่อลดอาการปวด ลดการ อักเสบ
•ใช้ผ้ายืดพันบริเวณที่บาดเจ็บ
•วางบริเวณที่บาดเจ็บให้สูง เพื่อ ลดอาการบวม

*หลังพ้นระยะ 24-48 ชั่วโมง แล้ว ให้เริ่มลดปวด และคงไว้ซึ่งการเคลื่อนไหว ของข้อที่บาดเจ็บเนื่องจากการจำกัด การเคลื่อนไหวนานๆอาจเกิด พังผืดบริเวณที่บาดเจ็บ

 

More