All Posts tagged การออกกำลังกาย

ตอนที่ 712 แนวทางการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคไต

ตอนที่ 712 แนวทางการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคไต

เมื่อพูดถึงแนวทางการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคไต การพิจารณาสภาวะเฉพาะของแต่ละบุคคลและปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์ทั่วไปบางประการมีดังนี้:

1. ปรึกษากับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณ: ก่อนที่จะเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกายใดๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพหรือแพทย์โรคไตของคุณ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลโดยพิจารณาจากอาการเฉพาะและประวัติทางการแพทย์ของคุณ

2. เริ่มต้นช้าๆ: หากคุณไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ให้เริ่มด้วยกิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น การเดิน ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ เริ่มต้นด้วยก้าวที่สบายๆ และค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นและระยะเวลาของการออกกำลังกาย

3. รักษาร่างกายให้ชุ่มชื้น: การให้น้ำที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพไต ดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกายเพื่อรักษาระดับความชุ่มชื้น อย่างไรก็ตาม โปรดปรึกษาผู้ให้บริการด้านการแพทย์เกี่ยวกับปริมาณของเหลวหากคุณมีข้อจำกัดด้านของเหลวโดยเฉพาะ

4. ติดตามความเข้มข้น: ให้ความสนใจว่าร่างกายของคุณตอบสนองต่อการออกกำลังกายอย่างไร หลีกเลี่ยงการกดดันตัวเองแรงเกินไปและรับฟังสัญญาณของความเหนื่อยล้าหรือไม่สบายตัว หากคุณมีอาการหายใจไม่สะดวก เวียนศีรษะ หรือเจ็บหน้าอก ให้หยุดออกกำลังกายและไปพบแพทย์

5. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง: กิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง เช่น การกระโดด วิ่ง หรือการยกน้ำหนักอย่างหนัก อาจทำให้ไตเกิดความเครียดมากเกินไป เลือกออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำซึ่งง่ายกว่าต่อข้อต่อและไต

6 การฝึกความแข็งแกร่ง: รวมการออกกำลังกายการฝึกความแข็งแกร่งเข้ากับกิจวัตรของคุณเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อและความหนาแน่นของกระดูก ใช้น้ำหนักที่เบากว่าและออกกำลังกายภายใต้คำแนะนำของผู้ฝึกสอนหรือนักกายภาพบำบัดที่มีคุณสมบัติ

7 หยุดพัก: ปล่อยให้ตัวเองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอระหว่างออกกำลังกาย การออกแรงมากเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อสลายและอาจทำให้ไตตึง

8 ติดตามสัญญาณชีพของคุณ: ติดตามความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และสัญญาณชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย หากคุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติที่สำคัญใดๆ โปรดแจ้งผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณ

More

ตอนที่ 642 กายบริหารผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังเสื่อม (Williams Exercise)

ตอนที่ 642 กายบริหารผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังเสื่อม (Williams Exercise)
ตอนที่ 304 กายบริหารผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังเสื่อม
(Williams Exercise)
ท่าที่ 1
 กดหลังแนบพื้น นอนหงายราบกับพื้น แล้วชันเข่าตั้งขึ้น มือไว้ข้างลำตัว จากนั้นเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังส่วน ล่างให้แนบกับพื้นให้มากที่สุด ทำซ้ำ 10 ครั้ง

ท่าที่ 2
 
กอดเข่า ดอกทีละข้าง นอนหงายชันเข่าขึ้นข้างหนึ่งเอามือสอดใต้เข่า แล้วดึงเข่าเข้ามาจนชิดหน้าอกมากที่สุด ยืดค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อยลง ทำซ้ำ 10 ครั้ง สลับทำอีกข้างหนึ่ง

ท่าที่ 3 กอดเข่า ดอกพร้อมกัน 2 ข้าง นอนหงายชันเข่า เอามือสอดใต้เข่าทั้ง 2 ข้าง จากนั้นดึงเข่าเข้ามาจนชิดหน้าอกมากที่สุด ยืดค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อยลง ทําซ้ำ 10 ครั้ง


ท่าที่ 4 
เกร็งท้องยกตัวขึ้น นอนหงายชันเข่า มือทั้ง 2 ข้าง ประสาน บริเวณหน้าอก เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง โดยยกศีรษะและ ไหล่ขึ้น โดยสะโพกยังชิดติดพื้นอยู่นิ่งค้างไว้ 5 วินาที ค่อย ๆ กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทําซ้ำ 10 ครั้ง

การรักษาทางกายภาพบำบัดอื่นๆ 

1. การออกกำลังกาย : เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่รองรับกระดูกสันหลัง เพิ่มความยืดหยุ่น และเพิ่มท่าทางและกลไกของร่างกาย ตัวอย่าง ได้แก่ การออกกำลังกายแบบยืดเหยียด การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของแกนกลาง และการปรับสภาพแบบแอโรบิก
 2.การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า: เทคนิคการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า เช่น การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) หรือการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าของประสาทและกล้ามเนื้อ (NMES) อาจใช้เพื่อลดอาการปวด บรรเทาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
3.การบำบัดด้วยความร้อนและความเย็น: การใช้ความร้อนหรือความเย็นกับบริเวณที่ได้รับผลกระทบสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบได้ การบำบัดด้วยความร้อนช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และเพิ่มการรักษาเนื้อเยื่อ ขณะที่การบำบัดด้วยความเย็นจะทำให้บริเวณนั้นชาและลดอาการบวม
4.Traction : การบำบัดด้วยแรงดึงเกี่ยวข้องกับการใช้แรงดึงไปที่กระดูกสันหลัง ช่วยคลายหมอนรองกระดูกสันหลัง คลายการกดทับเส้นประสาท และลดความเจ็บปวดในสภาวะต่างๆ เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือกระดูกสันหลังตีบ
5. การฝึกท่าทางและกลไกของร่างกาย: นักกายภาพบำบัดให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับท่าทางและกลไกร่างกายที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังตึงมากขึ้น โดยจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการนั่ง ยืน ยกของ และดำเนินกิจกรรมประจำวันด้วยการจัดแนวกระดูกสันหลังที่เหมาะสม
More

ตอนที่37:รู้หรือไม่การออกกำลังกายช่วยทำให้การคลอดง่ายขึ้น ???

ตอนที่37:รู้หรือไม่การออกกำลังกายช่วยทำให้การคลอดง่ายขึ้น ???

รู้หรือไม่ การออกกำลังกายช่วยทำให้การคลอดง่ายขึ้น???

26-3-MotherCare.คลอดง่ายด้วยการออกกำลังกาย-300x287

การออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์

เป็นสิ่งที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง เพื่อการคลอดที่ง่ายขึ้น เพียงแค่รู้ว่าการออกกำลังกายแบบไหนเหมาะสมกับคุณแม่ตั้งครรภ์ แล้วหาเวลาวันละ 10-15 นาที

เพื่อออกกำลังเสริมความแข็งแรงและยังช่วยให้คุณแม่คลอดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ท่าที่ 1
ย่อยืด ยืนตรงกางขาเล็กน้อย ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับหายใจออกร่วมกับแขม่วท้องและแกว่งแขนไปด้านหน้า ทำ 10 ครั้ง

ท่าที่ 2
ย่อ-บิด ยืนตรงกางขาเล็กน้อย ย่อเข่า ค่อยๆ บิดตัวพร้อมกับหันหน้า และเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมา ทำ 10 ครั้งสลับข้างกัน

ท่าที่ 3
ยืดโคนขาพับและน่อง ยืนห่างกำแพง ก้าวขาข้างหนึ่งไปด้านหลัง ปลายเท้าชี้ไปด้านหน้าเอนตัวเข้าหากำแพง ให้รู้สึกว่าโคนขาพับและน่องถูกยืด ทำ 5 ครั้ง แล้วสลับข้าง

ท่าที่ 4
ยืดใต้เข่า นั่งเหยียดขาข้างหนึ่งบนเก้าอี้ ค่อยๆ โน้มตัวไปข้างหน้า ให้รู้สึกว่าใต้เข่าถูกยืด ทำ 5 ครั้งแล้ว สลับข้าง

ท่าที่ 5
เอียงตัวซ้าย–ขวา ยืนกางขาเล็กน้อย เอียงตัวไปด้านซ้าย–ขวา ข้างละ 10 ครั้ง

ท่าที่ 6
ซอยเท้า ยืนและจับพนักเก้าอี้หรือราว ซอยเท้าอยู่กับที่

 

ความแข็งแรงหน้าท้อง

เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง กระชับท้องไม่ให้ถ่วงย้อย และ ยืดข้อต่ออุ้งเชิงกราน เพื่อป้องกันอาการ ปวดหลัง ปวดหัวหน่าว ปวดก้นกก

และช่วยในการเบ่งคลอดของคุณแม่

ท่าที่ 1

แขม่วท้องให้เอวเล็กลงพร้อมกับขมิบช่องคลอดค้างไว้ นับ 1–5 แล้วปล่อย โดยไม่กลั้นหายใจ

ท่าที่ 2

แขม่วท้องพร้อมกับขมิบ ช่องคลอด หายใจปกติ ค่อยๆ เอนหลังช้าๆ เอนให้มากเท่าที่ทำได้ และเกร็งหน้าท้องกลับมานั่งหลังตรงตามเดิม

ท่าที่ 3

เริ่มจากท่าที่ 2 เมื่อเอนหลังเสร็จ ให้เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง และ เอื้อมมือขวามาด้านนอกของเข่าซ้าย ทำสลับข้างไปมา

ท่าที่ 4

นอนตะแคง ให้มือด้านล่างหนุนศีรษะ ยกไหล่และแขนให้พ้นพื้น

 

แผ่นหลัง

เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง และป้องกันอาการปวดหลัง

  •  ยืนกางขาเล็กน้อย เอามือไขว้หลังไว้ที่บริเวณสะโพก ค่อยๆ ก้มตัวโดยให้หลังตรงค้างไว้สักครู่ แล้วกลับไปท่าเดิม

 

สะโพก
ป้องกันการปวดข้อสะโพกและหลัง

  • ใช้มือยันพื้น ให้เข่าข้างหนึ่งชิดกับพื้น หลังขนานตรง ขาอีกข้างค่อยๆ ยกขึ้น พร้อมกับแขม่วหน้าท้อง

 

สะโพก–เข่า
เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพก–เข่า ที่ต้องใช้ในการย่อตัวหรือ ยกของจากพื้น

  • ยืนกางขาเล็กน้อย ย่อเข่าหลังตรงเอนมาด้านหน้า แล้วยืนขึ้น

 

เท้า

  • นอนราบ กระดกเท้าขึ้น–ลงสลับกัน 10 ครั้ง แล้วหมุนเท้าวนซ้าย–วนขวา 10 รอบ

จบกระบวนท่าการบริหารแล้ว อย่าลืมอบอุ่นร่างกายอีกครั้งนะคะ

 

ข้อควรปฏิบัติอุปกรณ์ที่ควรมี

  • ควรออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 3 ครั้ง (วันเว้นวัน) และอบอุ่นร่างกาย 10 นาที แล้วตามด้วยท่าบริหารร่างกายแต่ละท่า
  • หยุดทันที เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น เมื่อยล้า เป็นตะคริว เป็นลม วิงเวียนศีรษะ หรือตกเลือด
  • บางท่าในการบริหารร่างกาย ควรมีที่นอนรองรับ หรือถ้าต้องออกกำลังกายโดยการเดินหรือเต้นแอโรบิค ก็ควรสวมรองเท้าผ้าใบ

 

 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกกายภาพบำบัดเฟิร์ส ฟิสิโอ

www.firstphysioclinic.com  สายด่วน 085-264-4994

More