ตอนที่154: เทคนิคดูแลผู้ป่วย อัมพฤกษ์ อัมพาต การฟื้นฟูแขนและมือตามระยะการฟื้นตัว
More
More
ปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยโรคหลอกเลือดสมองมีปัญหาในการเดิน เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการบังคับควบคุมกล้ามเนื้อขา ได้แก่ อาการอ่อนแรง กล้ามเนื้อกระตุก (spasticity) และความบกพร่องในการรับความรู้สึก proprioceptive ปัญหาบางอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้กายอุปกรณ์ขา ซึ่งจะทำหน้าที่ประคองหรือดาม (supportive,stabilizing) ป้องกันไม่ให้มีการขยับข้อในบางทิศทาง เช่น ป้องกันข้อเท้าไม่ให้มี plantar flexion ในช่วงที่ก้าวเท้า (swing phase) หรือป้องกันไม่ให้เข่าทรุดในช่วงที่เท้าข้างนั้นสัมผัสพื้น (stance phase) นอกจากช่วยประคองแล้ว กายอุปกรณ์ยังทำหน้าที่ทดแทนกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงด้วย เช่น ช่วยให้กระดกข้อเท้าขึ้น เป็นต้น
กายอุปกรณ์ประคองขาที่นิยมใช้ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ankle-foot orthosis (AFO) ซึ่งเดิมเรียกว่า short leg brace ส่วน knee-ankle-foot orthosis (KAFO) หรือ long leg brace ไม่ค่อยมีที่ใช้ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากมีขนาดใหญ่เทอะทะ น้ำหนักมากสวมใส่ยาก และใช้พลังงานในการเดินมาก
ชนิดของ AFO
1.ชนิดพลาสติก
ทำจากพลาสติกซึ่งอ่อนตัวได้ในอุณหภูมิ จึงสามารถหล่อและดัดให้มีรูปทรงพอดีกับขามีข้อดีคือน้ำหนักเบา ดูสวยงาม สวมไว้ในรองเท้าได้ ข้อห้ามใช้คือกรณีที่เท้าบวมหรือกล้ามเนื้อเกร็งกระตุกมาก เพราะอาจมีการกดจนเกิดแผล และต้องระวังในรายที่มีความบกพร่องในการรับความรู้สึก
AFO ชนิดพลาสติกที่นิยมใช้มี 3 แบบ ได้แก่
ข้างหน้าเล็กน้อย เมื่อเท้ายกขึ้นจากพื้น พลาสติกที่แอ่นจะดีดกลับทำหน้าที่คล้ายสปริงช่วยแก้ปัญหาเท้าตกและเท้าจิกลงในช่วงที่ยกก้าวขา (swing phase) เนื่องจากพลาสติกที่ประคองข้อเท้าแคบและอยู่เฉพาะด้านหลัง จึงไม่ช่วยเพิ่มความมั่งคงในแนว mediolateral กายอุปกรณ์ชนิดนี้มีจำหน่ายแบบสำเร็จรูป มีราคาค่อนข้างแพง
มีลักษณะคล้าย PLS ส่วนที่แตกต่างกันคือแผ่นที่ประคองน่องและข้อเท้ากว้างกว่า PLS มาก ขอบหน้าของ Solid ankle AFO คุมตาตุ่มทั้งด้านในและด้านนอก ทำให้สามารถบังคับข้อเท้าให้อยู่นิ่งได้ โดยป้องกันทั้ง dorsiflexion, plantarflexion, inversion และ eversion เนื่องจากต้องมีขนาดพอดีกับข้อเท้าและน่อง จึงต้องทำเฉพาะสำหรับแต่ล่ะคน
เป็นแผ่นพลาสติกที่ประคองตั้งแต่ patella จนถึง metatarsal heads ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ข้อเท้ามี dorsiflexion และล็อกให้เข่าเหยียดในช่วงที่เท้าสัมผัสพื้น (stance phase) ช่วยแก้ปัญหาเข่าทรุด
เป็นกายอุปกรณ์ที่ใช้กันมานานแล้ว ประกอบด้วยแกนโลหะ 2 แกน ดามด้านนอกและด้านในของขา ติดกับข้อโลหะซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับข้อเท้าของผู้สวมใส่ ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ใช้เฉพาะกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถสวมใส่ชนิดพลาสติกได้
2.1 รองเท้า
ที่เป็นส่วนประกอบของ AFO ชนิดโลหะต้องเป็นรองเท้าที่แข็งแรงและทนทานนิยมใช้รองเท้าที่เรียกว่า orthopaedic shoes ซึ่งเป็นรองเท้าหนังหุ้มส้น มีแกนเป็นเหล็ก (steel shank) และเพิ่มความแข็งแรงของผนังด้าน medial (medial long counter) เพื่อให้รองรับส่วน longitudinal arch ของเท้าได้ดี พื้นรองเท้าทำจากยางเพื่อให้มีความยืดหยุ่นและเกาะพื้นทางเดินได้ดี ขอบหน้าของยางส้นรองเท้ามีส่วนยื่นทาง medial เรียกส้นแบบนี้ว่า Thomas heel รองเท้าต้องมีขนาดพอดี เพื่อให้รองเท้ารองรับการลงน้ำหนักและประคองส่วนส้นเท้าและ longitudinal arch ได้ดี หากไม่พอดีอาจต้องหล่อพลาสติกประกบไว้ด้านในรองเท้าอีกชั้นหนึ่ง
2.2 ข้อโลหะ
เป็นส่วนที่เชื่อมต่อจากโครงโลหะใต้พื้นรองเท้า (stirrup) กับแกนตั้งที่เป็นโลหะ 2 แกน (double upright bars ) ข้อโลหะนี้มีตัวควบคุมแบบแกนเดียวและแบบแกนคู่ ตัวควบคุมแบบแกนเดียว (single channel) มีสปริงช่วยในการทำ dorsiflexion และเสียบหมุดไว้ป้องกันไม่ให้มี plantar flexion เรียกว่า ข้อแบบ klensak ส่วนแบบแกนคู่หรือ double-action joint มีหมุดป้องกันทั้งแบบ dorsiflexion และ plantar flexion สามารถปรับมุมการขยับของข้อโลหะได้โดยเปลี่ยนตำแหน่งที่เสียบหมุด
2.3 แกนโลหะ
มักทำจากอลูมิเนียม นิยมใช้แบบ 2 แกน ต่อระหว่างข้อโลหะบริเวณใกล้ข้อเท้ากับแทบรัดน่อง ช่วยบังคับไม่ให้มีการขยับของเท้าและข้อเท้าในแนว mediolateral บางกรณีต้องเพิ่มสายรัดช่วยดึงรั้งไม่ให้ข้อเท้าตะแคงในท่า varus หรือ valgus สายรัดที่ใช้บ่อยในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองคือ varus collection T-strap ติดจากขอบของส้นรองเท้าด้านนอกไปยึดกับแกนโลหะทางด้านใน เพื่อรั้งไม่ให้ข้อเท้าพลิกเข้าใน
>>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.firstphysioclinics.com
>>> เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด (FIRSTPHYSIO)
>> > LINE ID: @firstphysio
>>> TEL. 085-264-4994
More
ตามปกติแล้ว ขณะที่เรางอนิ้วมือเข้ามา หรือเหยียดนิ้วมือออกไปเอ็นที่ใช้สำหรับงอนิ้วจะเคลื่อนที่ลอดผ่านโพรงเอ็นนิ้วมือไปมา เมื่อเราใช้มือทำงานมากๆ จะทำให้เอ็นสำหรับงอนิ้วมือช่วงบริเวณฝ่ามือได้รับบาดเจ็บ และมีการอักเสบเรื้อรังของเอ็นสำหรับงอนิ้วมือเกิดขึ้นเส้นเอ็นบริเวณนั้นจะบวมโต จนกลายเป็นปมขึ้นมา เมื่องอหรือเหยียดนิ้วมือ จึงทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนที่ลอดผ่านโพรงเอ็นนิ้วมือไม่สะดวกกระทั่งติดค้าง
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดบวม และกดเจ็บที่ฝ่ามือ ตรงบริเวณใกล้โคนนิ้วมือ เมื่อกำมืองอนิ้วเข้ามาแล้ว จะเหยียดนิ้วคืนออกไม่สะดวกเหมือนกับนิ้ว “ถูกล็อค” เอาไว้ ต้องใช้มืออีกข้างมาง้างออก ผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนมีเสียงดัง “กรึก” ตรงบริเวณนั้น แล้วจึงเหยียดนิ้วออกไปได้ ซึ่งมักจะเจ็บมากขณะที่ง้างนิ้วออกไป ทั้งนี้เกิดจากปมเอ็นงอนิ้วมือมาติดค้างอยู่ตรงโพรงเอ็นนิ้วมือนั้นเอง อาการนิ้วล็อค ส่วนใหญ่มักเกิดกับนิ้วชี้, นิ้วกลาง, และนิ้วหัวแม่มือ
เนื่องจากโรคนี้มักเกิดขึ้นจากความเสื่อมสภาพของเส้นเอ็นที่เป็นไปตามอายุที่มากขึ้นด้วย จึงมักพบในผู้ป่วยวัยกลางคนขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มีการทำงานที่ต้องใช้มือมากกว่าทั่วๆไป เช่น แม่ครัวทำอาหาร แม่บ้านซักรัดเสื้อผ้า พนักงานพิมพ์ดีด เกษตรกรที่ต้องฟันไม้ขุดดินเป็นประจำ เป็นต้น
การรักษาโรคนิ้วล็อคตามแนวการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น ได้แก่ ลดการใช้งานของมือให้น้อยลง หลีกเลี่ยงการนวดดัดนิ้วแรงๆ หรือใช้แช่น้ำร้อน เพราะอาจทำให้เจ็บมากขึ้นร่วมกับการใช้ยาแก้อักเสบรับประทาน หรือใช้ยาจำพวกสเตียรอยด์ฉีดเข้าตรงเอ็นบริเวณนั้น หากอาการไม่ทุเลาก็ต้องลงท้ายด้วยการผ่าตัดกรีดโพรงเอ็นที่หุ้มอยู่ให้เปิดออก อย่างไรก็ตามหลังผ่าตัด อาจเกิดพังผืดแผลผ่าตัด ทำให้เกิดนิ้วล็อคขึ้นมาใหม่ได้
>>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.firstphysioclinics.com
>>> เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด (FIRSTPHYSIO)
>> > LINE ID: 0852644994
>>> TEL. 085-264-4994
Moreชนิดของผ้าเทปที่ใช้อยู่ทั่วไปแบ่งออกเป็น2ประเภทตามลักษณะการยืดหยุ่นตัวได้ของผ้าเทปได้แก่
1 ผ้าเทปแบบไม่ยืดหยุ่น (Non- Stretching or rigid tape)
ผ้าเทปแบบไม่ยืดหยุ่นมักใช้ประโยชน์ในการจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อต่อไม่ให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งหรือหลายทิศทางเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ อาจใช้เสริมความแข็งแรงให้กับผ้าเทปแบบยืดหยุ่น(Stretching tape) ก็ได้ข้อเสียของผ้าเทปแบบไม่ยืดหยุ่นคือ ใช้ยากเนื่องจากเมื่อนำมาพับส่วนของร่างกายแล้วมักจะย่น ดังนั้นผู้จึงต้องมีความชำนาญในการใช้พอสมควร
2 ผ้าเทปแบบยืดหยุ่น (Stretching tape)
ผ้าเทปแบบยืดหยุ่นมีประโยชน์หลักคือ ใช้ในการเพิ่มแรงกดต่อส่วนของร่างกายโดยเฉพาะกล้ามเนื้อเพื่อลดบวม
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของผ้าเทปแบบยืดหยุ่นก็คือ จะยึดและหดได้เล็กน้อยจึงทำให้ไม่สามารถจำกัดการเคลื่อนไหวได้ดีเหมือนผ้าเทปแบบไม่ยืดหยุ่น
ผ้าเทปที่มีความยืดหยุ่นและไมยืดหยุ่นจะมีขนาดความกว้างของผ้าเทปแตกต่างกันหลายขนาด สำหรับขนาดที่ผลิตออกมาจำหน่ายโดยทั่วไปคือ ผ้าเทปที่มีขนาดความกว้างของผืนผ้าเท่ากัน 1, 1.5,2,3 และ4 นิ้ว อย่างไรก็ตามหากผู้ให้การรักษาต้องการผ้าเทปที่มีขนาดความกว้างแตกต่างไปจากขนาดมาตรฐานนี้ก็สามารถฉีกครึ่งหนึ่งของผ้าเทปทีมีอยู่ สำหรับการเลือกขนาดความกว้างของผืนผ้าสำหรับการพันส่วนต่างๆของร่างกายนั้นขึ้นอยู่กับ
โดยหลักการทั่วไปในการเลือกก็คือ ถ้าส่วนที่จะพันผ้าเทปมีขนาดใหญ่ ก็ควรจะใช้ ผ้าเทปที่ขนาดความกว้างมาก แต่หากส่วนที่จะพันผ้าเทปมีขนาดเล็กก็ควรเลือกผ้าเทปที่มีขนาดความกว้างน้อย
>>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.firstphysioclinics.com
>>> เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด (FIRSTPHYSIO)
>> > LINE ID: 0852644994
>>> TEL. 085-264-4994
More
ในการประเมินประสิทธิผลของการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของความบกพร่อง (Impairment) ความด้อยสมรรถภาพ (Disability) ความด้อยโอกาสทางสังคม (Handicap) หรืออาการทางระบบหายใจ (Symptoms) โดยทำการประเมินก่อนและหลังการรักษาด้วยแบบประเมิน
วิธีการประเมินประสิทธิผลของโปรแกรม | Impairment | Disability | Handicap | Symptoms |
Exercise ability | ||||
Incremental exercise tests | / | |||
Submaximal exercise tests | / | |||
Walking tests | / | |||
General health status | ||||
Sickness Impact Profile (SIP) | / | / | ||
Quality of Well Being Scale (QWM) | / | / | ||
Medical Outcome Study, Short – Form 36 | / | / | Pain | |
Respiratory – specific health status | ||||
St.George’s Respiratory Questionnaire (SGRQ) | / | / | Dyspnea | |
Chronic Respiratory Disease Questionnaire (CRQ) | / | / | Fatiques | |
Respiratory – specific functional status | ||||
Pulmonary Functional Status and Dyspnea Questionnaire (PFSDQ) | / | / | / | Dyspnea |
Pulmonary Functional status Scale (PFSS) | / | / | / | Dysp/Fatique |
Clinical COPD questionnaire (CCQ) | / | |||
Exercise dyspnea | ||||
Visual analog scale during exercise testing | Dyspnea/Fatiques/Pain | |||
Category rating (Borg) during exercise | ||||
Overall dyspnea | ||||
Medical Research Council Scale (MRC) | / | |||
Baseline and Transitional Dyspnea Indexes (BDI) | / |
ข้อมูลดัดแปลงและอ้างอิงจาก American Thoracic Society; Pulmonary Rehabilitation; 1999
ในช่วง 7 วัน หรือ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา บ่อยแค่ไหนที่คุณมีอาการ หรือความรู้สึกต่อไปนี้ | ไม่เคยเลย | แทบจะไม่เคยเลย | นานๆครั้ง | หลายครั้ง | บ่อยๆ | บ่อยมากๆ | เกือบตลอดเวลา |
1.หายใจลำบากขณะพัก | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
2.หายใจลำบากขณะที่กำลังทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรง | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
3.กังวลว่าจะเป็นหวัดหรือการหายใจของคุณจะแย่ลง | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
4.หดหู่ (หม่นหมอง) เพราะปัญหาการหายใจของคุณ | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
5.คุณไอบ่อยแค่ไหน | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
6.คุณมีเสมหะบ่อยแค่ไหน | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
ในช่วง 7 วัน หรือ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ปัญหาการหายใจไปจำกัดการทำกิจกรรมเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน | ไม่เลย | น้อยมาก | บ้าง | ปานกลาง | มาก | อย่างมากๆ | สิ้นเชิง |
7.กิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เช่น ขึ้นบันได เวลาทำอะไรรีบๆ หรือเล่นกีฬา เป็นต้น | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
8.กิจกรรมที่ต้องใช้แรงปานกลาง เช่น เดิน ทำงานภายในบ้าน หรือหิ้วของเป็นต้น | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
9.กิจวัตรประจำวันที่บ้าน เช่น แต่งตัว หรืออาบน้ำเป็นต้น | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
10.การทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น เช่น พูดคุย อยู่กับเด็กๆ เยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติเป็นตัน | 0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
แบบสอบถามนี้ได้แปลเป็นภาษาไทยและได้รับอนุญาตจาก นายแพทย์ Prof. wen der Molen ให้เผยแพร่เอกสารนี้ได้
ใช้สูตรคำนวณคะแนนดังนี้
[(คะแนนรวมในหัวข้อ1, 2, 5, 6) x4]+[ (คะแนนรวมในหัวข้อ 7-10) x4]+[ (คะแนนรวมในหัวข้อ3 และ 4) x4]
10
***คะแนนรวมที่สูง แสดงถึงคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี ส่วนคะแนนรวมที่ต่ำแสดงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีมาก
>>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.firstphysioclinics.com
>>> เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด (FIRSTPHYSIO)
>> > LINE ID: 0852644994
>>> TEL. 085-264-4994
More