ตอนที่122: ปอดอักเสบ (Pneumonia)
ปอดอักเสบ (Pneumonia)
สาเหตุ
สาเหตุของภาวะปอดอักเสบ ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียและไวรัส เชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อย คือ เชื้อStreptococcus pneumoniaeส่วนไวรัสที่ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบบ่อยที่สุดคือ Cytomegalovirus ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนอวัยวะ ผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านมะเร็ง ส่วนในผู้ป่วยโรคเอดส์หรือผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน จะพบเชื้อ Pneumocystis cariniiบ่อยที่สุดปอดอักเสบ มีสาเหตุจากเชื้อโรคหรือสารเคมีเข้าไปในปอด ดังนี้
1. ติดเชื้อในทางเดินหายใจ ได้แก่ การไอ จาม หรือหายใจรด การสูด และการสำลักเอาเชื้อเข้าปอด
2. ติดเชื้อโดยการแพร่กระจายเชื้อไปตามกระแสเลือด เช่น การฉีดยา การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
3. ติดเชื้อในอวัยวะส่วนอื่น เช่น มีโพรงหนองในช่องเยื่อหุ้มปอด (empyema) โลหิตเป็นพิษ (septicemial) เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis) เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (endocarditis) เป็นต้น
4. ติดเชื้อจากการสำลักเอาเศษอาหารเข้าสู่ปอด ซึ่งพบในผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว รับยานอนหลับเกินขนาด
พยาธิสภาพปอดอักเสบ จะมีพยาธิสภาพแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ระยะเลือดคั่ง
พบใน 12-24 ชั่วโมงแรกหลังจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปในถุงลมและมีการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันจะมีปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายเกิดขึ้นโดยมีเลือดคั่งในบริเวณที่มีการอักเสบและ
มี Cellular Exudate เข้าไปในถุงลม(Exudate ประกอบด้วย เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว แบคทีเรีย และไฟบริน)ระยะนี้อาจมีเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด (Bacteremia)
ระยะที่ 2 ระยะปอดแข็งตัว(Hepatization)
ระยะปอดแข็งตัวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 2-3 ของโรคระยะแรกจะพบว่ามีเม็ดเลือดแดงและไฟบรินอยู่ในถุงลมเป็นส่วนใหญ่หลอดเลือดฝอยของปอดที่ผนังถุงลมจะขยายตัวออกมากทำให้เนื้อปอดมีสีแดงจัด เรียกว่า Red Hepatization ในรายที่มีการอักเสบอย่างรุนแรงจะมีการอักเสบมากขึ้น หลอดเลือดฝอยของปอดที่ผนังถุงลมมีขนาดเล็กลง ทำให้เนื้อปอดเปลี่ยนเป็นสีเทา เรียกว่า Gray Hepatizationซึ่งจะตรงกับวันที่ 4-5 ของโรค ระยะนี้กินเวลาประมาณ 3-5 วัน
ระยะที่ 3 ระยะฟื้นตัว(Resolution)
ในวันที่ 7-10 ของโรคเมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานโรคเกิดขึ้น เม็ดเลือดขาวสามารถทำลายแบคทีเรียที่อยู่ในถุงลมให้หมดและเริ่มสลายตัว ขณะเดียวกันจะมีเอ็นไซม์ออกมาละลายไฟบริน exudates ส่วนใหญ่จะถูกกำจัดออกจากบริเวณที่มีการอักเสบโดยเซลล์ชนิดโมโนนิวเคลียร์ที่เหลือจะหลุดออกมาเป็นเสมหะขณะไอระยะนี้การอักเสบที่เยื่อหุ้มปอดจะหายไปหรือมีพังผืดเกิดขึ้นแทนพยาธิสภาพของปอดอักเสบติดเชื้อจาก Diplococus pneumoniaมักจะกลับคืนเป็นปกติได้ นอกจากในรายที่มีการทำลายเนื้อเยื่อต่างๆอย่างมาก จะทำให้เกิดพังผืดขึ้นในส่วนที่เคยมีการอักเสบนั้น
การรักษาทางกายภาพบำบัดทรวงอก
1.การระบายเสมหะโดยเทคนิคทางกายภาพบำบัด เช่น การเคาะปอด การสั่นปอด การดูดเสมหะ
- ผู้ป่วยควรฝึกเพิ่มการขยายดตัวของทรวงอก เพื่อปอดจะได้มีพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนก๊าซได้มากขึ้น เช่น
การบริหารโดยใช้รอกคู่บริหารหัวไหล่มามีส่วนช่วยในการบริหารทรวงอก การฝึกการหายใจ ชี่กง ไทเก๊ก โยคะง่ายๆ
การปั่นจักรยานมือ จักรยานขาเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทรวงอก
ด้วยความปรารถนาดีจาก คลินิกกายภาพบำบัดเฟิร์ส ฟิสิโอ
http:// www.firstphysioclinics.com
Line ID : 0852644994
TEL.: 085-264-4994
More